บ่อยครั้งที่อาการปวดหลัง หรือปวดหลังล่าง มักจะเกิดขึ้นร่วมกับ อาการปวดร้าวลงขา เป็นหนึ่งสาเหตุ ที่ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์มากที่สุด พบได้ในทุกช่วงอายุ แต่พบมากที่สุดในวัยทำงาน วันนี้ S-Spine and Nerve Hospital เรามีความรู้ดีๆ มาแบ่งปัน รวมถึงสาเหตุที่พบได้บ่อยมากที่สุดของอาการปวดร้าวชาลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้อาจมีอาการปวดหลังเรื้อรังจนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

สาเหตุของอาการปวดหลังเรื้อรังที่พบได้บ่อย
  1. กล้ามเนื้ออักเสบ เมื่อกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง ได้รับการบาดเจ็บจากการใช้งานหรืออุบัติเหตุ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็งอย่างรุนแรง บางครั้งอาจทำให้มีอาการปวดหลังล่างร้าวลงไปที่บริเวณสะโพกและมีอาการขาชาได้
  2. กระดูกสันหลังเสื่อม ส่วนมากจะพบในผู้สูงอายุ เกิดจากความเสื่อมตามวัยของข้อต่อกระดูกสันหลัง ทำให้มีกระดูกงอกหรือเคลื่อนมาทับเส้นประสาท
  3. หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท มักพบบ่อยที่สุดในกลุ่มวัยทำงาน เกิดจากการฉีกขาดของเปลือกหมอนรองกระดูก ทำให้เกิดอาการปวดหลังเรื้อรัง และหากส่วนเนื้อด้านในปลิ้นออกมากดทับเส้นประสาทซึ่งอยู่ด้านหลังหมอนรองกระดูก จะทำให้มีอาการปวดร้าวลงขาร่วมด้วย
  4. อาจเกิดจากสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดการกดทับของเส้นประสาทจนมีอาการปวดหลังล่างเช่น การติดเชื้อบริเวณกระดูกสันหลัง เนื้องอก กระดูกสันหลังแตกหัก เป็นต้น
หมอนรองกระดูกปลิ้น,หมอนรองกระดูกปูด ( Bulging Disc )

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดร้าวลงขาหรือมีอาการปวดหลังล่างร่วมด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการแบบไหนที่เกิดจากหมอนรองกระดูกปลิ้น หรือเกิดจากสาเหตุอื่น อาการหนึ่งที่เด่นชัดที่มาจากหมอนรองกระดูกปลิ้น คือ อาการปวดร้าวลงไปที่ขาเหมือนไฟช็อต แล้วทำไมถึงมีอาการปวดในลักษณะนี้ สาเหตุนั่นก็เพราะเมื่อมีภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้น มักจะเกิดการกดทับของเส้นประสาทที่ออกมาบริเวณโพรงกระดูกสันหลัง เมื่อหมอนรองกระดูกส่วนนี้ปลิ้นไปกดทับเส้นประสาทจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังล่างร้าวลงไปที่ปลายขา

• หมอนรองกระดูกปลิ้นคือ?
• กระดูกเคลื่อนได้อย่างไร

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาท (Herniated disc)

อาการอาจแสดงออกได้ทั้งบริเวณหลังและขา คนทั่วไปมักเข้าใจว่ามีเพียงอาการปวดหลัง หรือปวดหลังล่างอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้วอาการที่ขานั้นสำคัญและจำเพาะเจาะจงกับโรคนี้มากกว่า นั่นแสดงถึงว่าเกิดการรบกวนของเส้นประสาทสันหลังที่วิ่งไปเลี้ยงบริเวณขาแล้ว หมอนรองกระดูกที่เคลื่อนออกมามักทำให้เกิดอาการแบบฉับพลัน เพราะมีการอักเสบที่รุนแรง

อาการปวดหลังส่วนล่าง : มักจะปวดหลังบริเวณเอวส่วนล่าง โดยมีอาการที่บริเวณหลังเพียงข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง ส่วนใหญ่จะมีอาการในลักษณะของท่านั่ง หรือมีการนั่งงอตัวไปทางด้านหน้า ซึ่งเป็นท่าที่หมอนรองกระดูกได้รับแรงกดทับมากที่สุด

อาการขาชา : อาการเด่นชัดที่มักแสดงที่บริเวณขา มีได้ 3 แบบ คือ อาการปวด อาการชา หรือ อ่อนแรงของกล้ามเนื้อ

 

อาการปวดหรือขาชาที่เกิดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะมีลักษณะอาการตามแนวที่เส้นประสาทวิ่งไป ผู้ป่วยจะปวดหลังส่วนล่างตั้งแต่บริเวณเอว ต้นขา น่อง ไปจนถึงเท้าและนิ้วเท้าได้ อาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อก็มีลักษณะคล้ายอาการปวดและชา คือ จะมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อมัดที่ไปเลี้ยงเส้นประสาทเส้นที่ถูกกดทับนั้น

สาเหตุของโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท

1.การยกของหนักด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องบ่อยๆ
2.น้ำหนักตัวที่มากเกินไป
3.นั่งทำงานด้วยอิริยาบถที่ไม่ถูกต้องนานๆ
4.อุบัติเหตุและการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลัง

ต้นเหตุของอาการเจ็บปวด

ต้นเหตุของความเจ็บปวดทั้งหลายนั้น ส่วนมากมีสาเหตุมาจากการที่กระดูกสันหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังตำแหน่ง Lumbar (L-L5,S1) เกิดความผิดปกติ

อาการของหมอนรองกระดูกปลิ้นมีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันตามการรบกวนของเส้นประสาท หรือการกดทับของเส้นประสาท ถ้าโดนกดทับเพียงเล็กน้อยก็อาจจะมีปวดแปล๊บไปที่ขาหรือขาชาเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เส้นประสาทโดนกดอย่างรุนแรง ผู้ป่วยบางรายอาจถึงขั้นเดินไม่ได้หรือกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันได้

ดังนั้นหากมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบมาพบแพทย์โดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้จนเรื้อรังอาจรักษาให้หายได้ยาก

ที่ โรงพยาบาล เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและระบบประสาท เรามีนวัตกรรมการรักษาด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาอาการปวดหลังโดยเฉพาะ ด้วยการรักษาที่ต้นเหตุ ตรงจุด ปลอดภัย ไม่เสียเวลาพักฟื้น และกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่ต้องผ่าตัด!

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นอาการปวดหลังร้าวลงขา จากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท

แพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้จากการซักประวัติ และตรวจร่างกายเป็นหลัก อาจมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น การถ่ายภาพรังสี (X-ray) บางกรณีจึงอาจต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือเอกซเรย์แม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)

MRI คือ การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับสร้างภาพอวัยวะในร่างกาย โดยอาศัยหลักของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและคลื่นวิทยุ ทำให้ได้ภาพอวัยวะภายใน ที่มีความคมชัด สามารถแยกเนื้อเยื่อของร่างกายที่ปกติและผิดปกติ ออกจากกันได้

• MRI แบบยืน ค้นหาสาเหตุของคนปวดหลัง

ไม่อยากผ่าตัด ก็สามารถใช้ Laser รักษาโรคปวดหลัง..กระดูกทับเส้นได้

โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ในอดีตต้องทำการผ่าตัดเปิดแผลขนาดใหญ่ ซึ่งมีความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ผู้ป่วยบอบช้ำและใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน

ที่ รพ.เอส สไปน์ แอนด์ เนิร์ฟ มีเทคนิคการรักษาหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ด้วยเทคโนโลยี Laser ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดแบบเปิดแผลขนาดใหญ่เกินความจำเป็น เพราะเข็มในการทำเลเซอร์มีขนาด 1 มิลลิเมตร หรือ เท่ากับเข็มฉีดยาทำให้ความเสี่ยงลดลงอย่างมาก และการรักษาด้วย Laser จะช่วยให้หมอนรองกระดูกที่ยื่นออกมากดทับเส้นประสาท ยุบลงได้ โดยผู้ป่วยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งวิธีการรักษาแนวใหม่นี้ เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เนื่องจากมีโอกาสหายสูง ข้อดีสำหรับการรักษาด้วย Laser

ข้อดีของการรักษาหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทด้วยเลเซอร์
  1. เป็นการผ่าตัดแบบไม่เปิดแผล แผลเล็ก เจ็บน้อย
  2. มีความปลอดภัยสูง
  3. ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว นอนโรงพยาบาลแค่ 1 คืน
  4. หลังผ่าตัดเสร็จสามารถเดินหรือทำกิจวัตรประจำวันได้
  5. ค่าใช้จ่ายถูกลง เมื่อเทียบกับการผ่าตัดใหญ่
แบ่งปันบทความนี้