020340808

ทำไมกระดูกจึงเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย? 

รูป

กระดูกเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย เนื่องจากกระดูกสันหลังเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุด ซึ่งช่วยสนับสนุนให้ร่างกายตั้งตรง ก้ม และบิดตัวได้ ภายในกระดูกมีไขกระดูกที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดเลือด (Blood cell) นอกจากนี้ กระดูกยังเป็นที่เก็บแร่ธาตุแคลเซียมในร่างกาย และช่วยป้องกันเส้นประสาทและหลอดเลือดที่ทอดอยู่ตามแนวของกระดูก 

คำตอบคือ 206 ชิ้น สำหรับผู้ใหญ่ และเด็กมีกระดูก 350 ชิ้น เนื่องจากเมื่อเด็กกำลังอยู่ในช่วงวัยเจริญเติบโต กระดูกหลายชิ้นจำเป็นต้องใช้ในการเชื่อมต่อร่างกาย และเมื่อเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ กระดูกสองหรือสามชิ้นจะค่อยๆ รวมตัวกันเป็นชิ้นเดียว 

ในกระดูก 206 ชิ้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามตำแหน่งที่อยู่ของกระดูก คือ 

  1. กระดูกแกน (Axial Skeleton) เป็นกระดูกที่อยู่บริเวณกลางลำตัว มีทั้งหมด 80 ชิ้น ทำหน้าที่ค้ำจุนพยุงร่างกาย ประกอบด้วย: 
  • กระดูกกะโหลกศีรษะ 29 ชิ้น (ไม่รวมฟัน) 
  • กระดูกสันหลัง 26 ชิ้น 
  • กระดูกซี่โครง 24 ชิ้น 
  • กระดูกหน้าอก 1 ชิ้น 
  1. กระดูกรยางค์ (Appendicular Skeleton) เป็นกระดูกที่ยื่นจากกระดูกแกนออกไป มีทั้งหมด 126 ชิ้น ทำหน้าที่ค้ำจุนพยุงร่างกายและป้องกันอวัยวะภายใน ได้แก่: 
  • กระดูกแขนข้างละ 30 ชิ้น รวม 60 ชิ้น 
  • กระดูกขาข้างละ 30 ชิ้น รวม 60 ชิ้น 
  • กระดูกสะบักข้างละ 1 ชิ้น รวม 2 ชิ้น 
  • กระดูกเชิงกรานข้างละ 1 ชิ้น รวม 2 ชิ้น 
  • กระดูกไหปลาร้าข้างละ 1 ชิ้น รวม 2 ชิ้น 

1024x768


เรามักเชื่อว่ากระดูกจะเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว “แคลเซียม” ในกระดูกจะมีการสร้างและสลายตัวตลอดเวลา หลังอายุ 30 ปีไปแล้ว แคลเซียมในร่างกายจะสลายตัวมากกว่าสร้างใหม่ ดังนั้นข้อควรระวังคือ ถ้ากระดูกไม่แข็งแรงจะเกิดปัญหาโรคกระดูกเปราะบางหรือกระดูกพรุน ซึ่งจะทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกต่างๆ เช่น ข้ออักเสบ ข้อเสื่อม มีอาการปวดหลัง และร่างกายจะเคลื่อนไหวได้ลำบาก 

อาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก ได้แก่: 

  • นมสด 
  • ไข่แดง 
  • ผักใบเขียว 
  • ผลไม้ 
  • อาหารที่มีวิตามินดี เช่น น้ำมันตับปลา 
  • ผักสด 

นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นประจำก็มีส่วนช่วยพัฒนากระดูกให้แข็งแรงด้วย ส่วนข้อควรระวังคือ อย่าให้น้ำหนักตัวมากเกินไป เพราะอาจทำให้ข้อต่อชำรุดหรือเสื่อมสภาพเร็ว 

มีที่มาจากหลายสาเหตุ เช่น: 

  • พันธุกรรม 
  • เชื้อโรค 
  • สิ่งแวดล้อม 
  • วัยหรืออายุที่เพิ่มขึ้น 

กระดูกสันหลังประกอบด้วยกระดูกและกล้ามเนื้อ อยู่บริเวณด้านหลังของลำตัว ทำหน้าที่ในการรับน้ำหนัก และเชื่อมโยงเส้นประสาทจากสมองถึงเชิงกราน ภายในกระดูกสันหลังมีส่วนที่เรียกว่า “ไขสันหลัง” ซึ่งมีหน้าที่นำคำสั่งจากสมองไปสู่อวัยวะต่างๆ ของร่างกาย กระดูกสันหลังที่อยู่ด้านนอกมีหน้าที่คอยป้องกัน “ไขกระดูกสันหลัง” ที่อยู่ภายใน “โพรงกระดูกสันหลัง” ระหว่างกระดูกสันหลังแต่ละข้อจะมี “หมอนรองกระดูก” คั่นกลางอยู่ 

ลักษณะของ “หมอนรองกระดูก” ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ: 

  1. หมอนรองกระดูกชั้นใน มีลักษณะคล้ายเจลลี่ หรือ นิวเคลียสพอลโพซัส (Nucleus pulposus) 
  2. หมอนรองกระดูกชั้นนอก มีลักษณะเหมือนถุงห่อหุ้ม เรียกว่า อนุลัสไฟโบรซัส (Annulus fibrosus) 

ความสำคัญของ “หมอนรองกระดูก” คือ มีหน้าที่รับน้ำหนัก ใช้ในการขยับหลังเพื่อก้มหรือแอ่น ระหว่าง “กระดูกสันหลัง” แต่ละข้อจะมี “เส้นประสาท” อยู่ภายใน 

กระดูกสันหลังมี 4 ส่วน: 

  • ส่วนคอ มี 7 ชิ้น / C1-C7 
  • ช่วงอก มี 12 ชิ้น / T1-T12 
  • ช่วงเอว มี 5 ชิ้น / L1-L5 
  • ช่วงเชิงกราน มี 1 ชิ้น 

เมื่ออายุมากขึ้น มีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังได้ เช่น การฉีกขาดของ “หมอนรองกระดูกชั้นนอก” หรือ “หมอนรองกระดูกชั้นใน” มีน้ำน้อยลง ทำให้มีคุณสมบัติในการรับน้ำหนักได้น้อยลง ข้อต่อด้านหลังเสื่อม ทำให้หลวมและเกิดการขยับของกระดูกสันหลังมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการปวด หมอนรองกระดูกที่เสื่อมและเคลื่อนไปทับเส้นประสาท ทำให้มีอาการปวดร้าวลงขาได้ และหินปูนที่กระดูกสันหลังสามารถงอกและยืดไปกดทับเส้นประสาท ซึ่

สอบถามข้อมูล

อาการปวดคอ
อาการปวดหลัง
MRI

รพ. เอส ไปน์

เราเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง

ปวดหลัง ปวดคอไม่หาย
ปรึกษาเราเลย!

020340808Line ID @s-spinehospital